Times schedual
Open Sunday – Saturday, 08. 00 AM – 17. 00 PM.
06. 00 – 09. 00 AM morning chanting and meditation, teaching Buddha’s Dhamma.
11. 00 – 12. 00 AM Food offering for the Buddhist monk and everyone have the lunch with together.
1. 00 – 5. 00 PM Teaching Dhamma talk.
วัดแคโรไลนาพุทธจักรวนาราม
WAT CAROLINA BUDDHAJAKRA VANARAM
BUDDHIST ASSOCIATION OF NORTH CAROLINA
ROUTE 1 BOX 93 MIDWAY ROAD BOLIVIA N. C. 28422 U.S.A.
TEL. (919) 253-4526
วัดแคโรไลนาพุทธจักรวนาราม ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 93 ถนนมิดเวย์ เมืองโบลิเวีย ด้านทิศใต้ ของเมืองวิลมิงกัน รัฐนอร์ธแค่โรไลนาสหรัฐอเมริกา
ความเป็นมา
เมื่อเดือนมิถุนายน 2530 พระครูพุทธมนต์ปรีชา (สมบัติ ปวิตฺโต) วัดบวรนิเวศวิหาร ได้เดินทางมาดูกิจการพระศาสน และร่วมประชุมกับคณะสงฆ์ธรรมยุตในประเทศอเมริกา เมืองเคลเลอร์ รัฐเทกซัส เมื่อการประชุมเสร็จสิ้นแล้ว ได้เดินทางไปเยี่ยมญาติโยมที่รัฐนอร์ธแคโรไลนา นายสุนทร เหมวงษ์ และนางสุบรรณ โพธิจินดา ที่ประกอบสัมมาอาชีพอยู่ในรัฐนี้พร้อมกับญาติพี่น้อง ได้มีจิตศรัทธาบริจาคเ งินซื้อที่ดินแปลงหนึ่ง อยู่ห่างจากเมืองวิลมิงตันลงไปทางทิศใต้ประมาณ 30 ไมล์ มีเนื้อที่ 20 เอเคอร์( 52 ไร่ ) ลักษณภูมิประเทศเป็นป่าไม้ร่มรื่นมีลำธารธรรมชาติไหลผ่าน มีอาคารอยู่หนึ่งหลัง แสดงเจตจำนงถวายให้เป็นที่สร้างวัดในพระพุทธศาสนา
หลังจากกลับสู่ประเทศไทยแล้ว พระครูพุทธมนต์ปรีชา ได้นำความกราบเรียนเจ้าพระคุณสมเ ด็จพระญาณสังวร ได้กรุณาทราบถึงเจตนาของผู้บริจาคที่ดิน และได้มีเมตตาจิตรับเป็นประธานกรรมการอุปถัมภ์การสร้างวัด ฯ โดยมีท่านเจ้าคุณพระญาณวโรดม และท่านเจ้าคุณพระธรรมคิลก เป็นรองประธาน กับได้มีหนังสือนิมนต์พระเถรานุเถระและเชิญคฤหัสถ์จากหลายสาขอาชีพเข้าร่วมเป็นกรรมการ โดยมี พณฯ ศาสตราจารย์ สัญญา ธรรมศักดิ์ ประธานองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก และพลอากาศเอก หะริน หงสกุล ผู้จัดการมูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย เป็นที่ปรึกษา พลอากาศเอก วรนาถ อภิจารี ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานกรรมการฝ่ายคฤหัสถ์
คณะกรรมการอุปถัมก์ ได้มีการประชุมกันครั้งแรก เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2531 ณ ตึก สว.ธรรมนิเวศ วัดบวรนิเวศวิหาร มีมติเป็นเอกฉันท์สนับสนุนการสร้างวัดขึ้น ณ มลรัฐนอร์ธแคโรไลนา ให้สำเร็จลุงล่วงไปด้วยดี เพราะพิจารณาเห็นว่า พระพุทธศาสนานั้นยิ่งแผ่ไพศาลไปในโลกมากเท่าใด ก็ยิ่งทำให้โลกสงบเย็นมากขึ้นเท่านั้น
คณะกรรมการได้มีการประชุมปรึกษาหารือถึงวิธีดำเนินการสร้างวัดอีกหลายครั้ง (รวม 7 ครั้ง) โดยมีมติให้คณะกรรมการดำเนินงานที่อยู่ในท้องถิ่น ดำเนินการจัดสร้างอย่างค่อยเป็นค่อยไปเป็นขั้นตอน ดังนึ้
- เมื่อได้รับการ โอนที่ดินแล้วให้จัดตั้งเป็นองค์การการกุศลที่ไม่แสวงหากำไร โดยจดทะเบียนตามกฎหมายของ รัฐนอร์ธแคโรไลนา
- ปรับปรุงอาคารที่มีอยู่แล้ว ให้เป็มกุฏิที่พักสงฆ์ชั่วคราว
- นิมนต์พระภิกษุสงฆ์ ไปอยู่ปฏิบัติศาสนกิจ แนะนำอบรมสั่งสอนโดยเน้นในด้านการอบรมจิตใจ ในปีแรก พ.ศ.2531 มีพระอยู่จำพรรษา 2 รูป คือ พระครูพุทธมนต์ปรีชา และ พระธงชัย ธมฺมธโร
- คำเนินการฃอจัดตั้งเป็นวัดให้ถูกต้องตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา (ทางการของ รัฐนอร์ธแคโรไลนา ได้อนุมัติให้จัดตั้งเป็นพุทธสมาคมนอร์ธแคโรไลนานา และเป็นวัด ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2531)
- ปรับปรุงพื้นที่บริเวณ ให้เป็นที่ร่มรื่นตั้งโต๊ะเก้าอี้ใต้ต้นไม้ ให้ผู้มาเยืยนได้พักผ่อน ชมธรรมชาติป่าไม้และลำธาร จัดทำทึ่จอดรถ ถนนในบริเวณวัด
- จัดวางแผนผังบริเวณวัดแบ่งเป็นเขตพุทธาวาส สังฆาวาส บริเวณฝึกสมาธิ ที่ตั้งอาคารต่าง ๆ
- จัดสร้างศาลาการเปรียญ สำหรับเป็นที่ประชุม ประกอบศาสนพิธีและกิจกรรมต่าง ๆ
- จัดสร้างกุฏิถาวร ในระยะแรกจำนวน 3 หลัง
- จัดสร้างพระอุโบสถสำหรับประกอบพิธีสังฆกรรม เช่นการอุปสมบท
- ดำเนินการสร้างพระพุทธปฏิมาประธานศิลปสุโขทัยเค้าพระพุทธชินสีห์ พระประธานในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร
- ประกอบพิธีผูกพัทธสีมา ตัดลูกนิมิต เปิดวัดอย่างเ ป็นทางการ จะได้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวยึดมั่นต่อไป
การดำเนินงานในขั้นต้นนั้น คณะกรรมการอุปถัมถ์ ได้จัดให้มีการทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อรวบรวมจตุปัจจัย สำหรับเป็นทุนในการเริ่มกิจการ ปรับปรุงอาคารสำหรับเป็นที่พำนักสงฆ์และปรับปรุงบริเวณวัดให้ร่มรื่น เพื่อให้ผู้ใด้พบเห็นเกิดศรัทธาปสาทะในการเข้าแสวงหาสัจจธรรมในพระพุทธศาสนาพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2531 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร โดยมีเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธานสงฆ์ และพลอากาศเอกวรนาถ อภิจารี ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ รวบรวมจตุปัจจัยได้ 500,339.56 บาท ในจำนวนนี้ เป็นจตุปัจจัยที่พุทธศาสนิกชนชาว อินโดนีเซียและชาวไทยในประเทศอินโดนีเซียร่วมบริจาก เป็นเงิน 103,825 บาท เจ้าพระคุณสมเ ด็จพระญาณสังวร ได้อนุมัติให้นำจตุปัจจัยดังกล่าว เป็นทุนในการเริ่มดำเนินการสร้างวัด
ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ 9 / 2531 เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2531 ได้มีมติที่ 98/15 เมษายน 2531 อนุมัติให้พระครูพุทธมนต์ปรีชา ไปปฏิบัติศาสนกิจเป็นพระธรรมทูตต่างประเทศ ปฏิบัติศาสนกิจที่วัดแคโรไลนาพุทธจักรวนาราม เมืองวิลมิงตัน สหรัฐอเมริกา และมติ 129 / 13 พฤษาคม 2531 อนุมัติให้พระธงชัย ธมฺมธโร วัดบวรนิเวศวิหาร เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจเ ป็นพระธรรมทูตที่วัดแคโรไลนาพุทธจักรวนาราม พร้อมทั้งนายณรงค์ เกณฑ์สาคู ไวยาวัจกร
วันที่ 9 มิถุนายน 2531 พระครูพุทธมนต์ปรีชา พร้อมด้วยไวยาวัจกร ได้เดินทางมาถึงและเข้าอยู่ปฏิบัติศาสนกิจที่วัดแคโรไลนาพุทธจักรวนาราม โดยมีนายสุนทร เหมวงษ์ นายกพุทธสมาคมคมนอร์ธแคโรไลนา และมรรคทายกวัด พร้อมด้วยญาติโยมให้การต้อนรับและประกาศว่าได้มีวัดพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นอีกวัดหนึ่ง ณ สถานที่อันเป็นมงคลแห่งนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
วันที่ 19 มิถุนายน 2531 ได้ประกอบพิธีเปิดป้ายวัดเคโรไลนาพุทธจักวนาราม โดยมี พระครูพุทธมนต์ปรีชา เป็นประธานในพิธี นายสุนทร เหมวงษ์ นายกพุทธสมาคมนอร์ธแคโรไลนาและ มรรคทายกวัด พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนชาวอเมริกัน ไทย ลาว จากเมืองวิลมิงตัน, ราเลย์ , กรีนสโบโร และเกาะโอ๊กจำนวน 14 คน ได้มาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดป้ายวัดในครั้งนี้
วัดแคโรไลนาทุทธจักรวนาราม จะดำเนินการก่อสร้างและเจริญรุ่งเรืองต่อไปได้ ก็ด้วยแรงศรัทธา สนับสนุนทั้งในด้านกำลังใจ กำลังกาย กำลังทรัพย์ กำลังปัญญา จากพระเถรานุเถระและพุทธศาสนิกชน ตลอดจนสาธุชนทุกท่าน
จึงขอกราบเรียนพระเถรานุเถระ และ เจริญพรท่านสาธุชนทุกท่าน มา ณ โอกาสนี้ และขอเชิญชวนทุก ๆ ท่านไปเยี่ยมวัดเละร่วมสร้างวัดนี้ ให้สำเร็จสมความมุ่งมาดปราถนา ต่อไป
WAT CAROLINA
Nestled comfortably in the small Tidewater town of Bolivia, Wat Carolina offers a taste of Thai religion and culture. The impressive red-roofed building, standing on its twenty-three-acre plot, makes the monastery a prominent fixture in the small town.
Wat Carolina was opened in 1988 as North Carolina’s first Theravada community, and the temple has grown to be one of the major Theravada Buddhist centers in the Southeast. Average weekly services draw from fifty to a hundred devotees, with holidays attracting almost a thousand faithful.
The congregation is predominately Thai. However, there are a significant number of European-American members. The temple leaders work hard to welcome and integrate those new members into the congregation: monks give sermons in both English and Thai, and the monastery holds instructional seminars after the Sunday services on the basics of mindfulness and meditation. The regular worship services consist of Thai chanting and seated meditation, which is followed by a dhamma talk.
Holiday services are elaborate celebrations that draw the larger crowds, with devotees traveling from as far away as New York. The center also takes part in numerous charitable efforts, which has helped it find its place in the wider community.
Currently, the monastery serves as a teaching facility for Asian monks who live at the temple for roughly a year as they study Buddhism and English. Future plans for the temple include further expansion of its sprawling structure to accommodate larger training centers and living areas for monks from Thailand and around the world.